5 ท่าออกกำลังกาย ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ขอเพียงมีเก้าอี้และความตั้งใจ

การออกกำลังกายให้ประโยชน์เป็นอย่างมากต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์ เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ดี แต่ทว่าก็ยากเย็นเสียเหลือเกินในการที่จะพาตัวเองไปออกกำลังกายให้ได้ในแต่ละวัน สาเหตุอาจจะเป็นเพราะการต้องออกไปข้างนอกเพื่อไปหาที่ออกกำลังกายนั้นอาจต้องใช้ความพยายามมากเกินไป ดังนั้นสมองของเราจึงต่อต้าน เกิดอาการที่เรียกว่าการผัดวันประกันพรุ่งขึ้น ดังนั้นวิธีง่าย ๆ เบื้องต้นที่จะใช้ในการหลอกสมองก็คือการหาท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้เองง่าย ๆ ที่บ้าน เช่น การออกกำลังกายโดยใช้เก้าอี้เป็นตัวช่วย ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีการออกกำลังโดยการใช้เจ้าอุปกรณ์ชนิดนี้มาฝากกัน 5 ท่า โดยวิธีการออกกำลังกายในแต่ละท่าต้องทำอย่างไรบ้างนั้นเราไปศึกษากันเลย

1. ท่าสำหรับการบริหารข้อเท้าและกล้ามเนื้อบริเวณน่อง

ท่าแรกนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการนั่งหลังตรง โดยจัดวางเท้าให้ราบไปกับพื้น จากนั้นจึงยกส้นเท้าขึ้นโดยใช้แรงส่งจากบริเวณกล้ามเนื้อน่องให้ปลาเท้าทำมุมเอียงกับพื้นประมาณ 45 องศา ทำสลับกันค้างไว้ข้างละ 5 – 10 วินาที ทำทั้งหมดประมาณ 30 ครั้ง ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อน่องกระชับขึ้นได้ และหากใครก็ตามที่ต้องการให้กล้ามเนื้อน่องทำงานเพิ่มมากขึ้น ก็สามารถทำได้โดยการหาหนังสือเล่มใหญ่สักหน่อยมาวางไว้บนหน้าขาขณะออกกำลังกายด้วยท่านี้เพื่อเป็นการเพิ่มน้ำหนักนั่นเอง

2. ท่าสำหรับการบริหารกล้ามเนื้อต้นขาและบริเวณช่วงหลัง

ท่าที่สองนี้จำเป็นต้องใช้เก้าอี้ที่มีล้อที่สามารถเคลื่อนตัวได้ ซึ่งวิธีการก็คือนั่งหลังตรง แขนชิดลำตัว มือเกาะอยู่ที่ตัวเบาะที่นั่ง ยืดเหยียดขาไปข้างหน้าให้ส้นเท้าแตะพื้นปลายเท้าเปิดขึ้น จากนั้นให้ใช้กำลังของกล้ามเนื้อต้นขาลากเก้าอี้ไปข้างหน้าให้ขาชิดกับจุดที่วางส้นเท้าในตอนแรก ทำซ้ำ ๆ เป็นจำนวน 10 ครั้งติดต่อกันขึ้นไป เท่านี้ก็จะเป็นการบริหารกล้ามเนื้อต้นขาและยังได้ออกกำลังช่วงบริเวณหลังไปในตัวได้พร้อมกันอีกด้วย

3. ท่าสำหรับการบริหารเอว

ท่าที่สาม คือ ท่าบิดเอว วิธีการคือนั่งหลังตรง วางเท้าให้ราบติดกับพื้น บิดเอวไปด้านข้างเล็กน้อย สลับซ้ายขวาค้างไว้ข้างละ 5 วินาที โดยหากบิดไปทางขวาให้ใช้มือขวาจับที่นั่งหรือที่วางแขนและมือซ้ายจับพนักพิง หากบิดไปทางซ้ายให้ใช้มือซ้ายจับที่นั่งหรือที่วางแขนและมือขวาจับพนักพิง แม้เป็นการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยแต่ท่าออกกำลังกายท่านี้ก็สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อทั้งบริเวณเอวและบริเวณหลังได้ยืดประมาณหนึ่ง

4. ท่าสำหรับการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง

ท่าที่สี่นี้มีวิธีการ คือ เริ่มต้นด้วยการนั่งหลังตรงเช่นเดิม โดยนั่งบริเวณกึ่งกลางของตัวเก้าอี้ จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างจับขอบที่นั่ง แล้วค่อย ๆ เอนตัวไปด้านหลังยกขาทั้งสองข้างให้ลอยขนานเหนือพื้นขึ้นมาแบบตรง ๆ แล้วค่อย ๆ เลื่อนเข่าข้างใดข้างหนึ่งมาให้ใกล้กับบริเวณหน้าอกให้มากที่สุด ทำสลับกันซ้ายขวา โดยท่าออกกำลังกายนี้จะบังคับให้กล้ามเนื้อหน้าท้องเกิดอาการเกร็ง หากทำเป็นประจำรับรองว่าจะเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้มีกล้ามท้องได้ในอนาคต

5. ท่าสำหรับบริหารหลังช่วงบนและไหล่ทั้งสองข้าง

             สำหรับท่าสุดท้ายนี้วิธีการง่ายนิดเดียว คือ การนั่งหลังตรง จัดวางให้เท้าอยู่แนวราบและปลายเท้าต้องจรดพื้นชี้ตรงไปยังด้านหน้าลำตัว จากนั้นเอามือทั้งสองข้างขึ้นมาแตะบริเวณหัวไหล่ หมุนแขนไปทางด้านหลัง 20 ครั้ง แล้วหมุนกลับมาทางด้านหน้าอีก 20 ครั้ง ทำประมาณสัก 3 เซ็ต โดยพยายามไม่ให้ส่วนอื่น ๆ ขยับ เท่านี้ก็จะเป็นการช่วยบริหารกล้ามเนื้อบริเวณช่วงหลังด้านบนและหัวไหล่ทั้งสองข้างได้อย่างไม่ยากเย็น

เป็นอย่างไรกันบ้าง เห็นไหมว่าการออกกำลังกายนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย ขอเพียงแค่เริ่มจากท่าออกกำลังกายง่าย ๆ เชื่อว่าต่อไปก็จะสามาระเพิ่มระดับความยากของการออกกำลังกายให้ค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้นได้เอง ขอเพียงแค่มีความตั้งใจและใส่ใจในเรื่องของการดูแลสุขภาพ และที่สำคัญนอกจากการออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นต่อสุขภาพที่ดีอีกเช่นเดียวกัน

ชอปปิงกับ Shopee ในแคมเปญใน  9.9 แคมเปญใหญ่เอาใจนักชอปแบบจัดหนักจัดเต็ม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://shopee.co.th/m/99